1.2 ประเภทเถา,เครือ
ชะเอมไทย
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Albizia myriophylla Benth.
จัดอยู่ในวงศ์ถั่ว : (FABACEAE หรือ LEGUMINOSAE)
มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า : ตาลอ้อย (ตราด), อ้อยสามสวน (อุบลราชธานี), ย่านงาย เซเบี๊ยดกาชา (ตรัง), อ้อยช้าง (สงขลา, นราธิวาส), ชะเอมป่า (ภาคกลาง), ส้มป่อยหวาน (ภาคเหนือ), เพาะซูโฟ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), กอกกั๋น เป็นต้น
มีชื่อท้องถิ่นอื่นๆว่า : ตาลอ้อย (ตราด), อ้อยสามสวน (อุบลราชธานี), ย่านงาย เซเบี๊ยดกาชา (ตรัง), อ้อยช้าง (สงขลา, นราธิวาส), ชะเอมป่า (ภาคกลาง), ส้มป่อยหวาน (ภาคเหนือ), เพาะซูโฟ (กะเหรี่ยงแม่ฮ่องสอน), กอกกั๋น เป็นต้น
สรรพคุณของชะเอมไทย
- เนื้อไม้ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย
- ช่วยบำรุงกำลัง (เนื้อไม้)
- รูปชะเอมไทยช่วยบำรุงกล้ามเนื้อให้เจริญ (เนื้อไม้)
- ช่วยแก้โรคตา (ต้น)
- ช่วยแก้โลหิตอันเน่าในอุทรและช่วยเจริญซึ่งหทัยวาตให้สดชื่น (ราก)
- ดอกแก้ดีและโลหิต (ดอก)
- ช่วยแก้กำเดาให้เป็นปกติ (ราก)
- เปลือกต้นใช้ต้มกับน้ำดื่มช่วยแก้อาการไอ โดยใช้รากชะเอมไทยยาวประมาณ 2-4 นิ้วนำมาต้มกับน้ำดื่มเช้าและเย็น หากอาการไม่ดีขึ้นให้รับประทานติดต่อกัน 2-4 วัน (เปลือกต้น, ราก)
- ช่วยขับเสมหะ แก้น้ำลายเหนียว (เนื้อไม้, ผล, ราก) ทำให้เสมหะงวด (ดอก)โดยใช้รากชะเอมไทยยาวประมาณ 2-4 นิ้วนำมาต้มกับน้ำดื่มเช้าและเย็น หากอาการไม่ดีขึ้นให้รับประทานติดต่อกัน 2-4 วัน
- ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ (ต้น, เนื้อไม้)
- เนื้อไม้มีรสหวาน ช่วยรักษาโรคในลำคอ (เนื้อไม้)
- ช่วยทำให้ชุ่มคอแก้อาการกระหายน้ำ (ราก, เนื้อไม้)
- ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟัน (เนื้อไม้)
- เนื้อไม้ช่วยแก้ลม (เนื้อไม้)ถ่ายลม (ต้น)
- ดอกมีรสขมร้อน ช่วยในการย่อยอาหาร (ดอก)
- รากใช้เป็นยาระบาย (ราก)
เล็บมือนาง
ชื่อสามัญ :Rangoon Creeper, Chinese honey Suckle, Drunen sailor
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Combretum indicum (L.) DeFilippsindica L.)
จัดอยู่ในวงศ์สมอ : (COMBRETACEAE)
สรรพคุณของเล็บมือนาง
- รากและใบมีรสเมาเบื่อ เป็นยาสุขุม ส่วนเมล็ดมีรสชุ่มเป็นยาร้อน สรรพคุณเป็นยาบำรุงธาตุ (ราก,ใบ,เมล็ด)
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร (ราก,ใบ)
- ทั้งต้นมีสรรพคุณช่วยแก้ตานขโมยพุงโร (ทั้งต้น)หรือจะใช้รากผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น ๆ จะมีสรรพคุณเป็นยาแก้ตานขโมย แก้เด็กเป็นซาง แก้ซางแห้ง แก้ธาตุวิปริต แก้อุจจาระพิการ แก้ตับทรุด และช่วยทำให้เจริญอาหาร (ราก)
- รากและใบใช้เป็นยาแก้ตานซางในเด็ก (ราก,ใบ) ส่วนเมล็ดเป็นยาแก้ตานซาง ตานขโมยในเด็ก (เมล็ด)
- ใบหากนำไปผสมกับสมุนไพรชนิดอื่น จะเป็นยาแก้ตัวร้อน และแก้อาการปวดศีรษะ (ใบ)
- ใบใช้ตำพอกแก้อาการปวดศีรษะ (ใบ)
- ช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะ (เมล็ด)
- ใช้เป็นยาแก้ไข้ (ใบ, เมล็ด
- ช่วยแก้อาการไอ (ต้น,ราก,ใบ,ทั้งต้น)
- ผลใช้รับประทานแล้วจะทำให้สะอึก (ผล)
- ช่วยแก้อาการสะอึก (ราก,ใบ)
พริกไทย
ชื่อสามัญ : Pepper
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper nigrum L. จัดอยู่ในวงศ์พริกไทย (PIPERACEAE)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Piper nigrum L. จัดอยู่ในวงศ์พริกไทย (PIPERACEAE)
มีชื่อท้องถิ่นอื่น ๆ ว่า : พริกขี้นก, พริกไทยดำ, พริกไทยขาว, พริกไทยล่อน, พริกน้อย
ลักษณะพริกไทย ต้นพริกไทยเป็นต้นไม้ที่มีอายุยืน จัดอยู่ในประเภทไม้เลื้อย สูงประมาณ 5 เมตร ลักษณะของลำต้นจะเป็นข้อ ๆ ลักษณะของใบพริกไทยจะมีสีเขียวสด ใบใหญ่คล้ายใบโพ ส่วนลักษณะ ของดอกพริกไทยจะมีขนาดเล็ก จะออกช่อตรงข้อของลำต้น มีลักษณะเป็นพวง ซึ่งจะมีเมล็ดกลม ๆ ติด กันอยู่เป็นพวง มีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดีย บริเวณเทือกเขาทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ สำหรับบ้านเรา พริกไทยถือเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญชนิดหนึ่ง โดยนิยมปลูกพริกไทยกันมากในจังหวัดจันทบุรี ตราด และระยอง
ประโยชน์ของพริกไทย
- เมล็ดพริกไทยมีสารฟีนอลิกและสารพิเพอรีน ซึ่งช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ (เมล็ด)
- เมล็ดพริกไทยมีสารพิเพอรีน (Piperine) ซึ่งเป็นสารอัลคาลอยด์ที่มีส่วนช่วยรักษาและป้องกันการเกิดโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้ (อ้างอิง : รศ.ดร.อรุณศรี ปรีเปรม อาจารย์จากคณะเภสัชศาสตร์) (เมล็ด)
- สรรพคุณช่วยป้องกันและต่อต้านสารก่อมะเร็ง ช่วยเร่งการทำงานของตับให้ทำลายสารพิษได้มากขึ้น (เมล็ด)
- เมล็ดพริกไทยมีฤทธิ์ในการช่วยกระตุ้นประสาท (เมล็ด)
- ช่วยแก้โรคลมบ้าหมูหรือลมชักได้ (เมล็ด)
- ช่วยบำรุงธาตุในร่างกาย (เมล็ด)
- ช่วยทำให้เจริญอาหาร ทำให้ลิ้นของผู้สูงอายุรับรสได้ดียิ่งขึ้น
- พริกไทยมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการนอนไม่หลับ (เมล็ด)
- ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายและเสริมภูมิต้านทานไปด้วยในตัว (เมล็ด)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น